มทร.ศรีวิชัย สงขลา จัดหลักสูตรสร้างนักคิด ผลิตภาพยนตร์ ตอบโจทย์ต่างชาติเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย

มทร.ศรีวิชัย สงขลา จัดหลักสูตรสร้างนักคิด ผลิตภาพยนตร์ ตอบโจทย์ต่างชาติเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย

นักศึกษา ชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาเทคโนโลยีสื่อมวลชน คณะครุศาสตร์อุตสากรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตสงขลา กำลังอยู่ระหว่างการถ่ายทำภาพยนต์สั้นกับโปรเจคพิเศษ ที่เตรียมจะที่จัดขึ้นเป็นเทศกาลหนังสั้น ครั้งที่ 9 ของสาขาวิชาฯ โดยจะจัดฉายภายโรงภาพยนต์จริง ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ช่วงเดือนมีนาคม 2566 นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรที่มุ่งหวังให้นักศึกษาได้สร้างสรรค์ผลงาน สร้างประสบการณ์ก่อนออกสู่ตลาดด้านสื่อ และอุตสาหกรรมภาพยนต์หลังจบการศึกษา

​ผู้ช่วยศาสตราจารย์ จักกฤษฎ์ แก้วประเสริฐ อาจารย์ผู้สอนและหัวหน้าหลักสูตรสาขาเทคโนโลยีสื่อสามวลชน เปิดเผยว่า ทางหลักสูตรมีการเตรียมความพร้อม และพัฒนาหลักสูตรให้ก้าวทันกับเทคโนโลยีอยู่เสมอ พร้อมทั้งยังส่งเสริมผลักดันให้นักศึกษา มีความรู้ความสามารถครบทุกด้าน โดยหลักสูตรมีการจัดเตรียมห้องเรียน อุปกรณ์ ให้มีการความพร้อมสำหรับการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นห้องสตูดิโอภาพนิ่ง สตูดิโอภาพเคลื่อนไหว อุปกรณ์ต่าง ๆ ด้านการถ่ายทำ หรือโปรดักชั่น เน้นงานเบื้องหลังสู่งานเบื้องหน้าที่มีคุณภาพ

​จากการที่รัฐบาลพยายามดึงกองถ่ายภาพยนตร์จากต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยมากขึ้น ทางหลักสูตรเองก็มีความพร้อมเป็นอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาก็มีกองถ่ายภาพยนตร์กองใหญ่ของไทย ก็เข้ามาใช้สภานที่ของจังหวัดสงขลา รวมถึงใช้อุปกรณ์ สตูดิโอของสาขาวิชาฯ ในการถ่ายทำแล้วด้วย ทั้งนี้ ก็พร้อมที่จะสนับสนุนนักศึกษาทุกคนที่อยากมีส่วนร่วมหรือสร้างโอกาสให้ตัวเองกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้งใน และต่างประเทศ

นางสาวธวัลยา พันธ์ฤกษ์ นักศึกษาสาขาวิชาเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน บอกว่า งานด้านภาพยนตร์ถือเป็นอีกงานหนึ่งที่มีความน่าสนใจ เพราะสามารถทำให้เราได้เรียนรู้ได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการคิดการ การเขียน และที่สำคัญที่สุดคือ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

​ด้านนายธนิยะ ด่านเบญจกุล หนึ่งในนักแสดงภาพยนตร์สั้นครั้งนี้ บอกกับทีมข่าวว่า หลักสูตรนี้ไม่ได้เป็นเพียงการเรียนรู้ของนักศึกษาในสาขาเท่านั้น ยังเป็นการเปิดโอกาสในนักศึกษาต่างคณะ หรือบุคคลภายนอกได้เข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องของการแสดงอีกด้วย และยังเป็นการช่วยให้ใครหลายคน ที่ได้มาร่วมงานด้านภาพยนตร์ค้นพบความชอบ และความต้องการด้านสายอาชีพของตัวเองเจอ และบอกอีกว่า หากในอนาคตมีอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไม่ว่าจะเป็นของไทย หรือต่างประเทศเข้ามา แล้วเปิดโอกาสให้คนไทยได้เป็นส่วนหนึ่ง ก็พร้อมที่จะเข้าไปเรียนรู้ และคว้าโอกาสนั้นอย่างแน่นอน